ปัจจุบันอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มจะมีอยู่ 2 อัตรา คือ
1. อัตราร้อยละ 7 สำหรับการขายสินค้าหรือบริการทุกประเภทและการนำเข้าที่มีรายรับเกิน 1,800,000 บาทต่อปี
2. อัตราร้อยละ 0 สำหรับกิจการประเภทต่างๆ ดังนี้
2.1 การส่งออกสินค้าที่มิใช่การส่งออกสินค้าซึ่งได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81 (3)
2.2 การให้บริการที่กระทำในราชอาณาจักรและได้มีการใช้บริการนั้นในต่างประเทศตามประเภท หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขอธิบดีกำหนด การให้บริการที่กระทำในราชอาณาจักรและได้มีการใช้บริการนั้นในต่างประเทศ ให้รวมถึงการให้บริการที่กระทำในราชอาณาจักรเพื่อใช้ผลิตสินค้าในเขตอุตสาหกรรมส่งออกเพื่อส่งออก และการให้บริการที่กระทำในเขตอุตสาหกรรมส่งออกเพื่อใช้ผลิตสินค้าเพื่อส่งออกด้วย
การคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม
เมื่อกิจการได้มีการจดทะเบียนในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มเรียบร้อยแล้วผู้ประกอบการในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มมีหน้าที่ในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มทุกสิ้นเดือนในแต่ละเดือนปฏิทิน แล้วยื่นแบบชำระภาษี (ถ้ามี) ให้กับกรมสรรพากรภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป การคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มมีดังนี้
ภาษีที่ต้องชำระ = ภาษีขาย – ภาษีซื้อ
การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
ผู้ประกอบการที่มีรายรับตั้งแต่ 1,800,000 บาทขึ้นไปจะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 7 % หรือ 0 % ก็ตาม แนวปฏิบัติในการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มมีดังต่อไปนี้
1. แบบคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
แบบคำขอที่ใช้ในการขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้แก่ แบบ ภ.พ.01 แบบคำขอจดทะเบียนขอรับได้ที่สำนักงานสรรพากรอำเภอ หรือสำนักงานสรรพากรเขตพื้นที่ทุกแห่ง
2. การกรอกแบบคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
การยื่นแบบคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ประกอบการต้องกรอกแบบคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แบบ ภ.พ.01) จำนวน 3 ฉบับ โดยมีข้อความครบถ้วนถูกต้องตรงกันทั้ง 3 ฉบับ ในการกรอกแบบผู้ประกอบการต้องแสดงสถานภาพต่างๆ ของการประกอบการดังนี้
ก. ชื่อผู้ประกอบการ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษี
ข. ชื่อและที่ตั้งสถานประกอบการ
ค. วันเริ่มประกอบการ
ง. ประเภทของการประกอบกิจการ
จ. ระบุความประสงค์ในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
ฉ. เอกสารที่แนบ
ช. การลงชื่อของผู้ประกอบการและการประทับตรานิติบุคคล
3. เอกสารที่ต้องแนบพร้อมแบบคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
ก. สำเนาหรือภาพถ่ายทะเบียนบ้าน และหรือหลักฐานแสดงการอยู่อาศัยจริง ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน และบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ยื่นคำขอและหรือภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ
ข. สำเนาหรือภาพถ่ายสัญญาเช่าอาคารซึ่งเป็นที่ตั้งสถานประกอบการในกรณีเช่าหรือหนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่ประกอบการในกรณีอาคารเป็นของผู้อื่นโดยมิได้เช่าพร้อมด้วยสำเนาหรือภาพถ่ายทะเบียนบ้านอันเป็นที่ตั้งสถานประกอบการ
ค. สำเนาหรือภาพถ่าย หนังสือสัญญาจัดตั้งห้างหุ้นส่วนในกรณีที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล (ถ้ามี)
ง. สำเนาหรือภาพถ่าย หนังสือรับรองของนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกระทรวงพาณิชย์ ในกรณีเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย พร้อมทั้งสำเนาหนังสือบริคณห์สนธิและข้อบังคับและสำเนาหรือภาพถ่ายใบทะเบียนพาณิชย์
จ. สำเนาหรือภาพถ่ายเอกสารการดำเนินกิจการร่วมค้า (ถ้ามี)
ฉ. ภาพถ่ายบัตรประจำตัวกรรมการผู้จัดการ หรือหุ้นส่วนผู้จัดการในกรณีเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
ช. เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี) เช่น หนังสือมอบอำนาจกรณีผู้ประกอบการมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแทนผู้ประกอบการพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ